เที่ยวสิงคโปร์ ฉบับครอบครัว ตอนที่ 2/3 Universal Studio Singapore
เช้าวันที่ 2 ของทริป วันนี้เราจะไปปล่อยแก่กันที่ Universal Studio Singapore
(ตอนที่ 1 คลิกที่นี่) ที่ Santa Grand Hotel Lai Chun Yuen ไม่มีอาหารเช้าให้ค่ะ
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะร้านข้าวหาง่ายมากๆ
Chaina Town Complex
อยู่ตรงข้ามร้านติ่มซำ TakPo ที่กินเมื่อวานเลยค่ะ
นั่นหมายความว่าเราเดินจากโรงแรมไปแค่ 50 ม. ก็ถึงแล้ว
ที่ Chaina Town Complex เป็นตึก 3 ชั้น
ชั้นใต้ดินเป็นตลาดสด ชั้น 1 เป็นร้านขายของเปิดเป็นห้อง ๆ เหมือนตามห้างแต่ไม่มีแอร์
และ ชั้น 2 เป็น Food Court ขนาดหย่ายยยยยยยยยย
แผนผังโซนฟู้ดคอร์ทค่ะ ใหญ่จริงจังเนอะว่ามั้ย
นับดูคร่าวๆนี่ 200 กว่าร้านเลยมั้ง แค่เดินดูของกินก็เมื่อยแล้ว 5555
ยามเช้าแบบนี้ บางร้านก็ยังไม่เปิดค่ะ แต่ก็เยอะมากพอแล้วล่ะ
หลังจากเดินวนสำรวจไปรอบนึงก็ตัดสินใจได้ซะทีว่าจะกินอะไร
เริ่มที่ข้าวหน้าเป็ด ร้านนี้ค่ะ อ่านไม่ออก
แต่จะบอกว่าอร่อยมากนะ น่าจะเป็นข้าวหน้าเป็ดที่ดีที่สุดของทริปเลยมั้ง
หลังจากผิดหวังกับ เทียน เทียน ข้าวมันไก่
เรามาลอง โจ๊ก เทียน เทียน บ้าง
เค้าเกี่ยวข้องกันมั้ย ไม่แน่ใจ
แต่อ่านจากรีวิวก่อนไปว่าโจ๊กร้านนี้อร่อย
โจ๊กหมูใส่ไข่ ใส ๆ ไม่ข้น รสชาติเฉย ๆ
เลยเริ่ม งง ชั้นมาผิดร้านป่าววะเนี่ย เหอเหอ
ส่วนร้านนี้ลองซื้อเพราะตอนแรกหาโจ๊ก เทียน เทียน ไม่เจอ
โจ๊กปลาข้น ๆ รสชาติถูกปากกว่าจ้า 5555
แถมปลาท่องโก๋ก็ไม่มัน อร่อยดี
ร้านขนมปังกาแฟ คนต่อคิวกันพอสมควรเลยไปลองสั่งดูบ้าง
สั่ง Kaya toast ขนมปังท้องถิ่น รสชาติเหมือนสังขยาบ้านเรา
จริงๆ ก่อนมา มีคนแนะนำให้กิน Kaya toast ร้านนึง
แต่มันค่อนข้างไกล เราเลยไม่ได้ไป
มาสั่งจากร้านนี้ลองกินแทน เราก็ว่าอร่อยน้า
Kaya toast ร้านนี้มี 2 แบบ แบบดั้งเดิม ผ่ากลางทา Kaya และ เนยแผ่น
อีกแบบคือ แบบหนาเหมือนขนมปังปิงบ้านเราเอา Kaya ทาด้านบน
ก็อร่อยทั้ง 2 แบบนะ แล้วแต่คนชอบอ่ะ
หลังจากอิ่มแล้วก็ออกเที่ยวกันค่ะ วันนี้โปรแกรมตามใจเรา Universal Studio Singapore 5555
ก่อนมาพี่เอ๋ลองถามป๊ากับม้า ว่าปลาอยากมาเที่ยวที่นี่ ป๊ากับม้าจะมาไหวมั้ย
คือถ้าไม่ไหวหรือไม่อยากไปก็จะเปลี่ยนแผนไปที่อื่นแทน
ป๊ากับม้าบอกว่า “ไปไหนก็ได้ลูก พวกหนูจัดการได้เลย”
เป็นไง พ่อแม่สามีเค้าน่ารักป่ะล่ะ 5555
การเดินทางไป USS มีหลายวิธีด้วยกันค่ะ
วิธีแรกคือนั่ง MRT มาที่ห้าง Vivo City คนละ 1.4 SD
แล้วต่อรถไฟฟ้าข้ามไปเกาะ Sentosa เสียคนละ 3 SD หรือเดินข้ามไปเสียคนละ 1 SD
ส่วนวิธีข้ามด้วยกระเช้าเราไม่ทันได้ดูราคามา แหะแหะ
รถไฟก็จะวิ่งส่งตามแหล่งท่องเที่ยวจุดต่าง ๆ บนเกาะ sentosa
แต่เรามากันหลายคนค่ะ คำนวณแล้วนั่งแท็กซี่เลยดีกว่า
ค่าเดินทางถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 8 SD ได้
แท็กซี่จะวิ่งยาวข้ามเกาะไปลงที่เซนโตซ่า วิ่งเข้า Universal Studio Singapore ได้โดยตรงเลย
เราไม่ต้องเสียเวลาไปห้าง Vivo city อีก
ข้ามมาแล้วววววววววววววววววววว
หลังจากลง Taxi แล้วก็เดินตามป้ายมาเรื่อย
เราก็เจอลูกโลกอันนี้ค่าาาา ตื่นเต้นแล้วๆ 555
เข้าด้านในกันค่าาาา
วันที่ไปเป็นวันพฤหัส แต่คนแอบเยอะเหมือนกันนะ
โชคดีที่เราซื้อตั๋วไว้แล้วเลยไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วอีก
ภายใน Universal Studio Singapore แบ่งออกเป็น 7 โซน 7 Theme
ที่มีเครื่องเล่นและโชว์ให้เลือกเล่นเลือกดูได้โดยที่ไม่ต้องเสียตังเพิ่ม
จะมีแค่บางอย่างเท่านั้นที่ต้องจ่ายเพิ่ม ค่ะ
มาถึงที่แรกของโซน New York เป็นโชว์
จะมีเวลากำหนดไว้ว่ามีรอบไหนบ้าง เราข้ามโซนนี้ไปเลย
เนื่องจากมีคนแนะนำว่าให้ไปเล่น Transformers ก่อนเพราะคนจะเยอะ
อันนี้ก็ไม่ได้เข้าไปเล่น
อันนี้ของสปิลเบิร์ก ไม่ได้เข้าอีกแล้ว
มาถึงแล้ว Transformer The Ride
เห็นข้างหน้าไม่มีคิว ดีใจมากกกกกก กรี๊ดกร๊าดดรีบวิ่งเข้าไป
แต่พี่ผิดหวัง เพราะเดินเข้าไปดันมีคิวอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องรอ 40 นาที
พี่ดีใจเก้อเลยอ่ะ เหอเหอเหอ
แต่ๆ มันคุ้มที่จะได้ต่อคิวนะคะ คู๊ณณณณณ
คือมันเจ๋งมาก มันใช่ มันส์มากกกกก ถูกใจเจ๊
มันเป็นเครื่องเล่นน่าจะเรียกว่า 4D
เพราะเราสัมผัสได้ทุกสิ่งอย่าง ควัน ไฟ ความร้อน ความเสียว มาครบ
เครื่องเล่นอันนี้ป๊าเข้าไปเล่นด้วย ออกมาพูดใหญ่ว่ามันสนุกมากกก 5555
ด้านหน้ามี Bumble Bee ด้วย อิอิ
Optimus Prime ก็ออกมาถ่ายรูปกับเด็ก ๆ ด้วย
ถัดมาอีกเป็นเครื่องเล่น รถไฟเหาะตีลังกา
แต่เสียดายอ่ะ ตอนไปเค้าปิดปรับปรุงอยู่อ่าาา อดเล่นเบยย
เดินมาถึงโซน Mummy แล้ว
Mummy ก็มีเครื่องเล่นนะ คิวไม่ยาวด้วยรอแค่ 15 นาที
เลยเข้าไปเล่นซะหน่อย อ้อ มีม้าไม่เข้าคนเดียว
Revenge of the Mummy ก่อนเล่นต้องฝากของทั้งหมดไว้ห้ามนำเข้าไป
อารมณ์เหมือนรถไฟเหาะ แต่มีเรื่องราวให้เราผจญภัย
ก็สนุกดีนะ แต่ยังไม่เท่าทรานฟอร์เมอร์อ่ะ
ออกมาถ่ายรูปกับนักแสดงหน้าเหมือนกันหน่อย
เอ่อ คุณพี่ผู้ชายนี่จะสูงไปไหนเนี่ย
ถัดมาถึงโซน The Lost World
เวลาตอนนี้เที่ยงพอดี เลยแวะหาของกินกันหน่อย ที่ Discovery Food Court
ขอถ่ายกับทีเร็กซ์ข้างหน้าหน่อย
ภายในตกแต่งไว้เหมือนในหนัง ซึ่งร้านอาหารน่าจะขายพวกสเต็กอะไรแบบนี้
แต่ในนี้ดันขายข้าวมันไก่ กับบะหมี่จ้า ราคาเริ่มต้นที่ 11.5 SD แถมถั่วเขียวให้ถ้วยนึงไว้แก้ร้อนใน
ข้าวมันไก่ที่นี่หน้าตาธรรมดาแต่อร่อยที่สุดที่ได้กินมาทั้งทริปเลย
คือข้าวมันนี่หอม มัน อร่อย ไก่ก็เนื้อนุ๊ม นุ่ม เรียกว่ากินแบบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มได้เลย เลอค่าที่สุด
พี่เอ๋ลืมถ่ายรูปซะงั้น 5555
อิ่มแล้วก็ไปต่อกันค่ะ โซนนี้มีเครื่องเล่นหลายอย่างอยู่นะ
อันแรกนี้เป็นเหมือนล่องแก่งชื่อ Rapids Adventure
มีคำเตือนว่า คนเล่นเตรียมเปียกได้เลย เลยไม่เล่น 5555
อีกอย่างแถวเริ่มยาววฮ่ะ กลัวม้ารอนานแล้วจะเบื่อ
ตรงนี้มีที่ปีนผาด้วย เป็นส่วนเดียวที่ต้องเสียเงินเพิ่ม
เครื่องเล่นเด็ก นกหมุน
เดินต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ เดินจนมาเจออันนี้
โซน Far Far Away
ด้านในปราสาทเป็นโรงหนัง 4D เรื่อง Shrek
บรรยากาศเป็นเหมือนโรงหนังค่ะ
ตัวสัมผัสต่าง ๆ เราว่ายังไม่โดน แต่เนื้อเรื่องมันน่ารักดี
แอบเอาไปเปรียบเทียบกับที่ดิสนีย์ซีที่ญี่ปุ่น มันมีคล้ายๆ กัน แต่อันนั้นเจ๋งกว่า
ปล.แหมวันนี้ฟ้าสวยดีจริงๆ เลยเนอะ
เดินถ่ายรูปเล่นกับโซนนี้กันค่ะ
ตอนแรกตั้งใจไปดูโชว์ Water world ค่ะ
แต่ไปดูแล้ว รอบโชว์คือเวลา 15.15 น.
ยังพอมีเวลาเหลือค่ะ เลยไปเดินเล่นฆ่าเวลาต่อ
แต่ม้ากับป๊าเริ่มเมื่อยค่ะ เราเลยให้ป๊าม้านั่งพัก
แล้วเราไปเดินถ่ายรูปเล่นกันสองคนแทน
เดินกันมาเรื่อยๆ ถึงโซน Madagascar
เท่าที่ดูเครื่องเล่นส่วนใหญ่น่าจะสำหรับเด็กหมด
เดินมาเรื่อยๆ เกือบถึงทางออก เจอโซน Hollywood
เดินถ่ายรูปเล่นกันซะหน่อย
ฆ่าเวลาจนถึงเวลาดูโชว์แล้ว
เป็นโชว์ที่มันส์มากกก ป๊าสนุกใหญ่เลย
ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ยิงกันสนั่นหวั่นไหว แสงสีเสียงมาเต็ม
ตอนจบมีให้ถ่ายรูปกับนักแสดงด้วย แต่คิวยาวมาก เลยแอบถ่ายไกลๆ แทน อิอิ
จบโชว์เราก็ move ตัวออกจาก USS
เพราะรู้สึกว่าม้าเริ่มเพลียแล้ว แบบว่าวันนั้นอากาศร้อนมากอ่ะนะ
วางแผนกันไว้ว่าเราจะกินปูเป็นมื้อเย็นกันที่ Vivo city
ระหว่างทางไปขึ้นรถไฟเพื่อข้ามจากเกาะฝั่งนี้กลับไป
ก็มีถ่ายรูปเล่นระหว่างทางบ้างเล็กน้อยค่ะ
จริงๆเราขึ้นรถไฟได้ตั้งแต่ตรงสถานีของ USS
แต่เราเดินมาขึ้นสถานีนี้คนน้อยกว่าตรง USS เยอะเลยฮ่ะ
ตอนแรกคิดว่าจะต้องเสียเงินคนละ 3 SD ค่ารถ ที่ไหนได้ขาออกฟรีจ้า
มาถึง Vivo city แล้วค่ะ สถานีรถไฟอยู่ที่ชั้น 3 ของห้าง
ชั้นนี้มีส่วนที่เป็น Outdoor ทำเป็นสวนด้วย สวยดีนะคะ
และนี่คือร้านที่เราจะฝากท้องกันค่ะ No Signboard Seafood
ร้านอยู่ในสวนนี่แหละค่ะ แต่ตอนแรกไม่รู้ ดันเข้าไปเดินหาอยู่ข้างในอยู่นาน
จนนึกว่าอดกินแล้วแน่เลย สุดท้ายเดินวนไปวนมาดันเจอซะงั้น 5555
ตอนแรกเลยเราตั้งใจไปกินร้านแถวคลากคีย์ค่ะ
แต่ก่อนมา หัวหน้าของพี่เอ๋ Recommend ร้านนี้มา
บอกไม่กินไม่ได้ ไม่มาจะต้องเสียใจ…ขนาดนั้น
ก็เลยต้องมาค่ะ กลัวเสียใจ 5555
และเมื่อลองแล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ อร่อยทุกเมนูที่สั่งเลย
แม้ว่าราคาจะโหดไปหน่อย มื้อนี้หมดไปเกือบ 4 พันบาท
หลังจากอิ่มเสร็จก็ลงไปเดินเล่นในห้างกันต่อค่ะ
เดินเรื่อยๆจนออกมาที่ Sentosa Boardwalk
อันนี้เป็นทางเดินที่เดินข้ามไปเกาะ Sentosa ได้เลย
กรณีคนที่อยากเดินรับลมชมวิวไปเรื่อยๆ แทนกันนั่งรถไฟหรือกระเช้าข้ามไป
ถ่ายรูปจนพอใจ ก็เดินกลับเข้ามาในห้างค่ะ
ก่อนออกไปเราเจอร้านขนมร้านนี้ Fruit Paradise
เป็นเค้กพายจากญี่ปุ่น ที่ตอนไปญี่ปุ่นไม่ได้กิน
Mock up แต่ละอันคือมันยั่วยวนมาก ม้ามายืนดูก็บอกน่ากิน
งานนี้จะพลาดได้ไงใช่มั้ยคะ เพื่อม้าค่ะ 55555
แต่เนื่องจากเราเพิ่งอิ่มจากปูมาอ่ะนะ เราเลยสั่งมากินแค่ 2 อย่าง
จานแรก พายช๊อกเบอรี่ อร่อยดีน้า
จานที่สอง ชื่ออะไรไม่รู้ แต่หน้าตามันน่ากินมากกก
ขนมปังที่เห็นเป็นเหมือน Honey Toast เลยอ่ะ อร่อยยยยย
สรุปว่า เด๋วถ้าได้ไปญี่ปุ่นอีกจะไปหากินอีกนะ 555
อิ่มแล้ว อิ่มจริงๆ ค่ะทีนี้ ได้เวลากลับกันแล้วล่ะ นั่งแท็กซี่กลับเหมือนเดิม
กลับไปพัก พรุ่งนี้ค่อยเที่ยวกันต่อ ส่วนวันที่ 3 เราไปเที่ยวไหนกัน ตามอ่านกันได้ตอนจบ นะจ๊ะ